Search

love you to Himalayas
part 1

เนปาล...

  • Share this:

love you to Himalayas
part 1

เนปาล...นานมาแล้ว
.
หนึ่งในความทรงจำที่ดีที่สุดในชีวิต
ขอบคุณหัวใจที่ใช้ความรู้สึกชั่ววูบนั้นตัดสินใจออกเดินทาง
.
พอมีเวลาได้ปัดฝุ่นความทรงจำ เราเลยหยิบเนปาลที่ค้างเอาไว้มาเล่าสักที เรื่องราวที่เราจะเล่านี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว เป็นการเดินทางครั้งแรกที่ใช้เวลานานผ่านเส้นทางที่ยาวและไกลที่สุดในชีวิต แต่ละก้าวที่มุ่งหน้าสู่ปลายทางอย่างมัจฉาปูชเรย์ แห่งเทือกเขาหิมาลัย บททดสอบความแข็งแกร่งของร่างกายและเหนืออื่นใดก็คือหัวใจของเราเอง เป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยรายละเอียดและยาวนานมากจริงๆ เราเลยขอเล่าแบ่งเป็นพาร์ทๆ แทน และสำหรับ part 1 นี้เป็นช่วงที่พวกเราอยู่ในตัวเมืองและวันแรกที่เริ่มเดินเท้า ภาพที่เก็บมามีทั้งทีชัดเจนและเบลอไปบ้างเพราะตั้งค่ากล้องผิด ความเสียดายในคราวแรกค่อยๆ หายไป ความเบลอที่มองว่าผิดพลาดช่วยให้ความทรงจำเราทำงาน และโหมความคิดถึงกลับมาได้อย่างชัดเจนทุกครั้ง
.
Annapurna Base Camp
.
Annapurna Base Camp นั้นไม่ใช่แค่การเดินทางเพื่อไปพิชิตภูเขา ไม่ใช่แค่ระยะทางหมื่นๆ ก้าวที่เราข้ามผ่าน แต่เป็นหัวใจของตัวเองที่เราเอาชนะมาได้ ความสุขระหว่างทาง ช่วงเวลาที่ได้รู้จักเพื่อนเก่าเพิ่มขึ้น และพบเจอมิตรภาพดีๆ ใหม่ๆ ได้อยู่ท่ามกลางอ้อมกอดของเทือกเขาหิมาลัยที่สง่า เยือกเย็น บริสุทธ์ ได้จับจ้องภาพที่งดงามเกินกว่าจะบรรยายได้ด้วยคำพูด หรือภาพถ่ายไหนๆ ให้สมกับของจริงได้
.
และในฐานะของคนที่ได้ไปถึงเทือกเขานี้แล้ว เราคงพูดได้เพียงว่า ถ้าปักใจหมายมั่นเอาไว้แล้ว ก็ไปเถอะ นี่คือช่วงชีวิตที่เราจะจดจำและเล่าวนไปอีกซ้ำๆ กับเพื่อนได้อย่างไม่มีวันเบื่อ หากความแข็งแรงของร่างกายยังเอื้ออำนวย สักครั้งหนึ่งในชีวิตก็เกินพอแล้ว เพราะเชื่อได้เลยว่าระยะทางที่ยาวไกลและความเหนื่อยยากนี้ มันแสนที่จะคุ้มค่าที่จะแลกมาเหลือเกิน
.
“when you get older
your wild heart will live for younger days”
.
เราจำได้ไม่ชัดเท่าไหร่ว่าจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้นั้นเป็นมายังไงกันแน่ รู้แค่ว่า การเดินทางครั้งนี้ต่างจากการเดินทางครั้งอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง เพราะจุดหมายปลายทางของเราคราวนี้มันช่างอยู่ไกลแสนไกลมากนัก
ระยะเวลา 10 วันเต็มๆ กับการเดินเท้าครั้งแรกที่มีระยะทางกว่า 120 กิโลเมตร เราต้องเดินผ่านป่าและภูเขานับสิบลูกท่ามกลางสภาพอากาศที่คาดคะเนได้ยาก ดูเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย ลึกๆ ในใจหนึ่งก็แอบหวั่นอยู่ไม่น้อยกับการเดินทางครั้งนี้เหมือนกัน ถึงแม้ความกังวลต่างๆ จะประดังประเดเข้ามาไม่ขาดสาย แต่เสียงจากอีกมุมหนึ่งของหัวใจก็ถามกลับมาว่า ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ ก็ไม่รู้เลยว่าจะมีโอกาสอีกทีเมื่อไหร่
.
เราตั้งสติได้พอๆ กับที่บินมาถึงเมืองกาฐมาณฑุพอดี ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกของทุกคนกับประเทศเนปาล พวกเราถึงสนามบินกันด้วยใจพองๆ เรียกได้ว่าตื่นเต้นกันยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ไกด์ที่ติดต่อเอาไว้ มายืนรอที่ประตูทางออกตามเวลาที่นัดหมายอย่างพอดิบพอดี แต่ที่ไม่มาตามนัดกลับเป็นกระเป๋าของพวกเราเอง พนักงานสนามบินแจ้งว่ากระเป๋าของไฟล์ที่เราเดินทางมานั้นดีเลย์ น่าจะต้องใช้เวลารออีกประมาณ 2-3 ชั่วโมง ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้ ทุกคนจึงได้แต่นั่งรอ และจัดการเรื่องซิมการ์ดต่างๆ และหาข้อมูลเกี่ยวกับการเดิน treking เพิ่มเป็นการฆ่าเวลา
.
เมื่อกระเป๋ามาถึง พวกเราก็มุ่งหน้าเข้าตัวเมือง เพื่อไปเก็บของที่โรงแรม และเย็นวันนั้นเอง ที่เราได้รู้จักกับ Bukta หัวหน้าไกด์ และ Bally รองหัวหน้าไกด์ ที่จะเป็นคนดูแลและนำทางให้เราพวกตลอดระยะเวลา 12 วันนี้ เมื่อนัดแนะเวลาและตารางการเดินทางของวันพรุ่งนี้เรียบร้อยพวกเราก็แยกย้ายไปหาอาหารเย็น และซื้ออุปกรณ์ Trekking กันเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย โชคดีที่ที่พักเราอยู่ย่านเดียวกันกับถนน Tamel แหล่งขายของฝากและขายอุปกรณ์การเดินเขา หลังจากได้ของที่ต้องการครบเรียบร้อย พวกเราก็แยกย้ายกันเข้านอนเพื่อเตรียมตัวตื่นเช้าเดินทางข้ามไปอีกเมืองกัน
.
From Kathmandu — To Pokhara
.
จากกาฐมาณฑุ มุ่งสู่โพคาราเมืองด่านแรก ก่อนการเริ่มต้นเดินทางสู่ Annapurna Base Camp เราเดินทางมาด้วยรถบัสใช้เวลาเกินกว่าครึ่งวันเมื่อมาถึงก็เป็นเวลาบ่ายแก่แล้ว เราพักกันที่โรงแรมที่ Bakta จัดการเตรียมไว้ให้ อยู่ในย่านตัวเมืองบรรยากาศเลยคึกคัก เต็มไปด้วยร้านค้า และร้านอาหาร รวมถึงตลาดเล็กๆ ที่ขายของพื้นถิ่นด้วย พวกเราเดินเล่นกันด้วยความตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศและผู้คน แวะร้านนู้นออกร้านนี้ ได้ของฝากตั้งแต่วันที่สอง เดินหาร้านข้าวเย็นกันด้วยการสุ่มเดา หลังจากอิ่มท้องเราก็เข้าที่พัก เตรียมตัวนอนเพื่อการเดินทางอันแสนยาวไกลที่จะเริ่มแต่เช้าในวันพรุ่งนี้
.
การเดินทางที่เหนื่อยที่สุด คุ้มค่าที่สุดกำลังจะเริ่มหลังจากนี้
วันแรกเราที่เริ่มเดินเท้ากัน ก็เห็นธงมนต์ตามข้างทาง เป็นเหมือนคำอวยพรให้เหล่านักเดินทางทั้งหลายเดินทางกันอย่างปลอดภัย พวกเราออกตัวกันมาได้เกือบครึ่งวัน ก็ต้องเจอกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปทุกครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวแดดจัด เดี๋ยวฝน เดี๋ยวลมหนาว อย่างไม่ทันเตรียมตัว เราต้องรีบปรับตัวและใจให้ตามทัน เพราะไม่สามารถหยุดเดินหรือพักได้นานตามใจ เกือบจะหมดแรงแต่จนในที่สุดก็มาถึงบ้านหลังแรก พอดีกับแสงสุดท้ายของวัน บ้านหลังนี้มีหลายห้องและใหญ่ทีเดียว เป็นที่รวมตัวของนักเดินอีกทางมากมาย เราอาบน้ำ ออกมากินข้าวเย็นกันพร้อมหน้า ได้นมและชาอุ่นๆ กันคนละแก้ว พูดคุยกันเล็กน้อยและแยกย้ายกันเข้านอนด้วยความเพลีย ต้องเก็บแรงไว้ให้มากที่สุดเพราะตั้งแต่วันพรุ่งนี้ เส้นทางสู่ ABC ที่แท้จริงรอเราอยู่

stay tuned for part 2
real soon

love you to Himalayas,
Mars


Tags:

About author
not provided